สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาทองคำในประเทศวันนี้ (3 เม.ย. 66) รวม 5 ครั้ง ปิดตลาดพลิกบวก 50 บาท ตามราคาต่างประเทศฟื้นตัว จากภาวะเศรษบกิจถดถอย
- ทองคำแท่ง รับซื้อคืน 31,850.00 บาท/บาททองคำ และขายออก 31,950.00 บาท/บาททองคำ
- ทองรูปพรรณ รับซื้อคืน 31,275.08บาท/บาททองคำ และขายออก 32,450.00 บาท/บาททองคำ
ทองคำในประเทศ อ้างอิงตลาดสปอตที่ 1,963.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และอิงค่าเงินบาท 34.41 บาท/ดอลลาร์
ราคาทองฟื้นตัวในช่วงท้ายตลาดเอเซีย
ราคาทองคำในวันจันทร์เคลื่อนไหวผันผวน หลังจากกลุ่มโอเปกพลัส ประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมัน ทำให้นักลงทุนคาดว่าจะผลักดันให้เงินเฟ้อปรับสูงขึ้น และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ขึ้นดอกเบี้ย
ราคาทองคำตลาดปสอต ร่วงหลุด 1,960 ดอลลาร์/ออนซ์ แตะต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ ก่อนฟื้นตัวในช่วงท้ายตลาดเอเชีย ส่้วนราคาทองฟิวเจอร์ ขยับลงเช่นเดียวกัน ก่อนฟื้นตัวเหนือระดับ 1,980 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองในไตรมาสสอง เริ่มต้นไม่ดีนักเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก ที่ราคาขยับขึ้นเกือบ 8% จากวิกฤติภาคธนาคาร ทำให้เฟดชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
อย่างไรก็ตาม ห้างทองฮั่วเซ่งเฮง มองว่าทองคำยังน่าสนใจ เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงจะเกิดเศรษฐกิจถดถอย และมีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ได้แก่ สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน
ราคาทองเช้าวันจันทร์ "ลง 50 บาท" แนวโน้มเข้าตลาดหมี
ค่าเงินบาทอ่อนเร็ว วิตกโอเปกลดผลิตดันเงินเฟ้อ หนุนเฟดขึ้นดอกเบี้ย
ความเสี่ยงของเศรษฐกิจที่เข้าสู่ “ภาวะเศรษฐกิจถดถอย” คำนี้หายไปนาน ด้วยช่วงต้นปีที่ผ่านมาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นตลาดแรงงานสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ดูเหมือนแนวโน้มจะดีขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัวลงนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 จนทำให้หลายคนอาจมองข้ามไปแล้วว่า “ภาวะเศรษฐกิจถดถอย” อาจจะยังไม่เกิดขึ้น เพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สะท้อนชี้นำหรือบดบังซ่อนข้อมูลเบื้องหลังบางประการอยู่
จากข้อมูลทางสถิติที่ผ่านมาของอัตราการว่างงานสหรัฐ ที่สะท้อนถึงข้อมูลบางประการได้อย่างน่าสนใจมาก จะเห็นว่าอัตราว่างงานสหรัฐที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2563 และมีอัตราที่ต่ำมากสุดนับตั้งแต่ปี 2514 ทำให้ส่วนหนึ่งนักลงทุนอาจคลายความกังวลว่าตลาดแรงงานของสหรัฐจะเริ่มกลับมาแข็งแกร่ง และเศรษฐกิจสหรัฐกำลังไปต่อได้ดี แต่นั้นอาจกลายเป็นกับดักของนักลงทุน เพราะจากข้อมูลสถิติที่ผ่านมา พบว่า อัตราว่างงานสหรัฐมักจะต่ำมากก่อนที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ก็ได้สะท้อนข้อมูลของการมีโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอนาคตด้วยเช่นกัน
ส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและอายุ 3 ปี ติดลบ 0.47% ในช่วงสิ้นปี 2565 นั้นแสดงว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นมากกว่าระยะยาว ซึ่งอาจก่อเกิดปัญหาได้ในแง่ภาคธุรกิจและประชาชนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย เมื่อดอกเบี้ยระยะสั้นสูงกว่า คนก็มักจะฝากเงินระยะสั้นมากกว่าที่จะฝากเงินในระยะยาว ขณะที่ธุรกิจที่กู้ยืมเงินดอกเบี้ยระยะสั้นที่มีอัตราสูงไว้หมุนเวียนธุรกิจก็อาจมีความเสี่ยงต่อปัญหาการจ่ายหนี้ สภาพคล่องต่อธุรกิจในอนาคตได้เช่นกันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้ โดยเฉลี่ยแล้วส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและอายุ 3 ปี ติดลบ จะมีโอกาสที่ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในอีก 9-18 เดือนข้างหน้า ซึ่งยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐต่อไปภายหลังการเกิดวิกฤตภาคธนาคารแม้ว่าจะคลี่คลายลงไปบ้าง แต่สถานการณ์ดังกล่าวนั้นสหรัฐจะควบคุมได้มากน้อยแค่ไหน ขณะที่เงินเฟ้อสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูงซึ่งยังคงเป็นปัญหาที่เฟดอาจไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยที่แรงเพื่อกดเงินเฟ้อให้ลงได้อีกเหมือนเช่นปีที่ผ่านมา
สัญญาณ Indicator หลายตัวเริ่มเห็นสัญญาณที่จะเริ่มเข้าสู่ Bearish ทั้งนี้ให้มองแนวรับสำคัญบริเวณ 1,955 ดอลลาร์ หากหลุดแนวรับดังกล่าวให้เปิดสถานะขายทองคำ หรือเก็งกำไรซื้อระยะสั้นหากสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,955 ดอลลาร์
แนวโน้มราคาทอง
ราคาทองคำ Spot ช่วงกลางวันปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 1,955 ดอลลาร์ จากแรงเทขายทำกำไรต่อเนื่องหลังจากการเปิดเผยดัชนี PCE พื้นฐานของสหรัฐซึ่งพบว่าออกมาต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลต่อการคาดว่ามีโอกาสที่เฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้น อย่างไรก็ดีโอเปกพลัส พึ่งประกาศปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก 1.16 ล้านบาร์เรล/วัน อย่างเหนือความคาดหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำมันพุ่งขึ้นและทำให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐมีแนวโน้มเร่งตัวสูงขึ้น และอาจส่งผลให้เฟดจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ซึ่งอาจเป็นผลลบต่อราคาทองคำ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค.โดยมาร์กิต ตลาดคาดว่าจะทรงตัวที่ 49.3 และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค.โดย ISM ตลาดคาดว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 47.5 จาก 47.7 ในเดือนก.พ.
แนวโน้มราคาทองคำ
แนวโน้มราคาทองคำคาดว่าเคลื่อนไหว Sideways down ทั้งนี้ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,970 ดอลลาร์ (GF 32,230 บาท) และแนวต้านถัดไป 1,980 ดอลลาร์ (GF 32,310 บาท) ขณะที่มีแนวรับที่ 1,944 ดอลลาร์ (GF 31,960 บาท) และแนวรับถัดไปที่ 1,935 ดอลลาร์ (GF 31,880 บาท)
สำหรับ Gold Online Futures มีแนวต้านที่ 1,995 ดอลลาร์ และแนวต้านถัดไป 2,005 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวรับที่ 1,969 ดอลลาร์ และ 1,960 ดอลลาร์ กลยุทธ์การลงทุน แนะนำขายทำกำไร หรือรอเปิดสถานะขายบริเวณราคา 1,970 ดอลลาร์ (GF 32,230 บาท) โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 1,980 ดอลลาร์ (GF 32,310 บาท) การลงทุนใน Gold Online แนะนำขายทำกำไร หรือรอเปิดสภานะขายบริเวณราคา GOM23 ที่ 1,995 ดอลลาร์ โดยมีจุดขายตัดขาดทุนที่ 2,005 ดอลลาร์
